อันดับ 1 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
ขอบคุณภาพจาก https://www.google.com/search?q=%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%99&rls=com.microsoft:th:IE-Address&ie=UTF-8&oe=UTF-8&sourceid=ie7
ลำดับที่ 2 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
https://www.google.com/search?q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&prmd=imvns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=NNtfUKKgGIXIrQfH0YHAAQ&sqi=2&ved=0CCYQsAQ&biw=1440&bih=662
อันดับที่ 3 เกาะตาชัย
ขอบคุณภาพจาก
https://www.google.com/search?hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_cp.r_qf.&biw=1440&bih=662&wrapid=tlif134845941770211&ie=UTF-8&sa=N&tab=iw&ei=mttfULvbAYayrAeMjICADw
อันดับที่ 4 อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
https://www.google.com/search?q=%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B2&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&prmd=imvns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=9NxfUMDUDYPirAfBoYDQDA&sqi=2&ved=0CCYQsAQ&biw=1440&bih=662
อันดับที่ 5 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา-หมุ่เกาะพีพี
ขอบคุณภาพจาก
https://www.google.com/search?hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B5&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_cp.r_qf.&biw=1440&bih=662&wrapid=tlif134846019864511&ie=UTF-8&sa=N&tab=iw&ei=p95fUOTBBYfyrQegyIEg
อันดับที่ 6 เกาะราชา
ขอบคุณภาพจากhttps://www.google.com/search?q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&prmd=imvns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=d99fUNf_H46PrgeQtIHgBA&ved=0CD4QsAQ&biw=1440&bih=662
อันดับที่ 7 ทะเลแหวก เกาะห้องไร่เลย์
ขอบคุนภาพจาก https://www.google.com/search?hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%20%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%8C&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_cp.r_qf.&biw=1440&bih=662&wrapid=tlif134846059531121&ie=UTF-8&sa=N&tab=iw&ei=NOBfUMLuB4TprAethIHADw
อันดับที่ 8 เกาะไข่นอก
ขอบคุณภาพจาก https://www.google.com/search?q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&prmd=imvns&biw=1440&bih=662&ie=UTF-8&sa=N&tab=iw&ei=v-BfUJHSJI-zrAfXw4D4Aw
อันดับที่ 9 เกาะหมาก
ขอบคุณภาพจาก
https://www.google.com/search?q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&prmd=imvns&biw=1440&bih=662&ie=UTF-8&sa=N&tab=iw&ei=beFfUOCHOM-trAeTpIH4Dg
อันดับที่ 10 เกาะกูด อ่าวไทย
ขอบคุณภาพจาก
https://www.google.com/search?q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%94&hl=th&rls=com.microsoft:th:IE-Address&prmd=imvns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=ruFfUO7yDoi8rAesrYDABg&ved=0CD0QsAQ&biw=1440&bih=662
มหัศจรรย์แห่งท้องทะเล
วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
รอบรู้รอบทะเล
1. แสงแดด
ให้คุณประโยชน์หลายอย่างต่อสุขภาพ ที่รู้จักกันดีก็คือเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินดี ซึ่งช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน ซึ่งเราจะได้รับวิตามินดีจากอาหารเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องมาจากแสงแดด
ดังนั้น ให้ร่างกายได้อาบแสงแดดอุ่น ๆ ยามเช้า (ก่อน 9 โมงเช้า) หรือยามเย็น (หลังสี่โมงเย็น) สัก 10-15 นาที แต่การสัมผัสแสงแดดนอกเหนือเวลานั้น ต้องป้องกันด้วยการทาครีมกันแดด ใส่แว่นตากันแดดใส่เสื้อผ้าที่ปกป้องผิวกายให้มากที่สุด และอยู่ให้ห่างจากพระอาทิตย์ในช่วงที่รังสียูวีแรงที่สุด คือราว 10 โมงเช้าถึงสี่โมงเย็น
2. น้ำทะเล
น้ำทะเลมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และพบว่าน้ำทะเลอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินมากมายที่ร่างกายต้องการ และปัจจุบันการเยียวยาสุขภาพในแบบที่เรียกว่า Thalassotherapy มีให้บริการมากมายในสปาในยุโรป เพื่อได้ใช้ประโยชน์จากน้ำทะเลอย่างเต็มที่ สำหรับการรับประโยชน์จากน้ำทะเลโดยไม่ต้องเข้าสปาราคาแพง เพียงแค่แช่ตัวในน้ำทะเลก็ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากน้ำทะเลเป็นแอสตริงเจนต์ตามธรรมชาติ ช่วยสมานผิว บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ และทำให้แผลหายเร็ว
อีกวิธีหนึ่งของการใช้ประโยชน์จากน้ำทะเลในการเยียวยาสุขภาพ ก็คือ การหายใจเอากลิ่นอายของน้ำทะเลเข้าไปในจมูก โดยใช้สองมือประสานกันวักน้ำทะเลขึ้นมาจ่อไว้ใต้จมูก และสูดหายใจเข้าลึก ๆ ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยทำความสะอาดไซนัส และเปิดเส้นทางลมให้จมูกโล่งสบาย
3. ทราย
เป็นสารขัดผิวตามธรรมชาติ มันจึงเป็นเครื่องมือในการทำความสะอาดผิวที่แสนวิเศษ ทำให้ผิวเปียกด้วยน้ำทะเล แล้วถูทรายบนผิวอย่างเบามือให้ทั่วเรือนร่าง คุณยังสามารถนำกลิ่นอาย และความรู้สึกของทะเลมาสร้างความรู้สึกสงบที่บ้านได้ ด้วยการใช้ทรายในการจัดสวนถาดแต่งบ้าน
4. ฟองน้ำ
เป็นสัตว์ทะเลที่พบได้ในเขตน้ำอุ่น ซากแห้งของมันมีคุณสมบัติพิเศษในการอุ้มน้ำได้มาก และชาวกรีกก็ใช้มันในการอาบน้ำและขัดถูร่างกาย ฟองน้ำธรรมชาติจะเป็นสีน้ำตาลหรือเทาอ่อน ๆ และมีรูปร่างที่ไม่เหมือนกันเลย ฟองน้ำแห้งสามารถนำมาวางใส่ขวดโหลเพื่อตกแต่งห้องหรือห้องน้ำ และเมื่อชุบน้ำอีกครั้ง ก็สามารถใช้ในการทำความสะอาดและขัดผิวได้อย่างแสนวิเศษ
5. ปะการัง
ศิลปะแห่งท้องทะเลนี้เป็นแรงบันดาลใจอันใหญ่หลวงสำหรับหลายคน ปะการังที่ถูกซัดขึ้นมาบนชายหาด จึงเป็นของแต่งบ้านแสนสวยที่ให้ความอิ่มเอมทางอารมณ์ นอกจากนี้ หินปะการังยังเป็นหินขัดผิวเท้าชั้นดี ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และทำให้เลือดสูบฉีดและไหลเวียนมายังเท้า
6. สาหร่ายทะเล
คุณประโยชน์อันโดดเด่นอย่างหนึ่งของสาหร่ายทะเล ที่ไม่มีพืชใดเหมือนก็คือ มันช่วยขับสารพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขจัดรังสีและโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราออกไป รวมถึงสารพิษที่เกิดจากมลภาวะแวดล้อมอื่น ๆ ได้ดี
7. เปลือกหอย
การได้ค้นหาและชื่นชมงานสร้างสวรรค์อันแสนวิเศษของธรรมชาตินี้ เป็นการใช้เวลาว่างอันแสนวิเศษของใครหลายคน ทำให้เราหลุดจากความหมกมุ่น และให้จิตใจได้โบยบินไปอย่างอิสระ มันยังเป็นของแต่งบ้านแสนสวย โดยเฉพาะในห้องน้ำ และเปลือกหอยยังใช้เป็นที่วางเทียน หรือธูปหอม เพื่อสร้างกลิ่นอายอันผ่อนคลายในบ้าน และให้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ
8. อากาศริมทะเล
การหายใจเอาอากาศสดชื่นริมทะเลเข้าไป ช่วยให้เราผ่อนคลายและรู้จักปล่อยวาง กลิ่นเค็มจาง ๆ ที่ปนอยู่ในอากาศทำให้เรารู้สึกรื่นรมย์ และมีชีวิตชีวาแฝงอยู่ที่ไม่อาจพบได้ในที่อื่นใด หายใจเข้าลึก ๆ แล้วความเครียดจะสลายไป และคุณจะหาวิธีรับมือกับความกดดันได้ดีขึ้น
9. การออกกำลัง
การเล่นโยคะหรือวิ่งบนชายหาด เป็นวิธีการอันแสนวิเศษในการรักษาสมรรถภาพร่างกาย และได้ประโยชน์จากกิจกรรมกลางแจ้งที่เราทำริมทะเลหน้าร้อน คุณควรออกกำลังตอนเช้าหรือบ่ายคล้อยจวนเย็น ซึ่งแดดไม่จัดเกินไป และควรดื่มน้ำเยอะ ๆ ก่อนและระหว่างการออกกำลัง รวมทั้งหลังการออกกำลัง เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
การเล่นโยคะหรือวิ่งบนชายหาด เป็นวิธีการอันแสนวิเศษในการรักษาสมรรถภาพร่างกาย และได้ประโยชน์จากกิจกรรมกลางแจ้งที่เราทำริมทะเลหน้าร้อน คุณควรออกกำลังตอนเช้าหรือบ่ายคล้อยจวนเย็น ซึ่งแดดไม่จัดเกินไป และควรดื่มน้ำเยอะ ๆ ก่อนและระหว่างการออกกำลัง รวมทั้งหลังการออกกำลัง เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
10. คลายความเครียด
แสงอากาศ และคลื่น...ทุกสิ่งที่ริมทะเลล้วนเป็นยาชั้นดีในการผ่อนคลาย ลองใช้ประโยชน์จากสรรพสิ่งต่าง ๆ แห่งท้องทะเลที่แนะนำไว้ข้างต้น มันจะละลายความเครียดและนำคุณกลับสู่ธรรมชาติ ทิ้งแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่บ้าน และอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุดอย่างน้อยก็ปีละสักครั้งเถอะนะ
แหล่งที่มา
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ประโยชน์ของน้ำทะเล
ประโยชน์ของน้ำทะเล
1. มีอิทธิพลต่อลมฟ้าอากาศของโลก เพราะน้ำทะเลในทะเลและมหาสมุทร สามารถดูดและคายความร้อนได้ดีกว่าแผ่นดิน ทำให้เกิดเมฆ ฝน ลม และพายุ พัดพาเข้าสู่แผ่นดิน
2. น้ำทะเลมีเกลือแร่หลายชนิดละลายอยู่มาก จึงเป็นแหล่งกำเนิดของสัตว์น้ำนานาชนิดทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วย ปลาหลากหลายชนิด เเละสัตว์น้ำในทะเล (ซึ่งเป็นปริมาณมากถึง ๘๐ % ของสัตว์น้ำ ทั้งหมดบนโลก)
3. สามารถผลิตเกลือและสารเคมีหลายชนิด อาทิ เกลือแกงเกลือจืด
4. อัญมณี เช่น ไข่มุก ได้มาจากหอยมุก ซึ่งอาศัยอยู่ ในน้ำทะเล
5. น้ำทะเลใช้เป็นที่เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น แล่นเรือใบ ว่ายน้ำ เล่นสกีน้ำและอื่น ๆ
แหล่งที่มา
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=60edaf5e92dadaa8
1. มีอิทธิพลต่อลมฟ้าอากาศของโลก เพราะน้ำทะเลในทะเลและมหาสมุทร สามารถดูดและคายความร้อนได้ดีกว่าแผ่นดิน ทำให้เกิดเมฆ ฝน ลม และพายุ พัดพาเข้าสู่แผ่นดิน
2. น้ำทะเลมีเกลือแร่หลายชนิดละลายอยู่มาก จึงเป็นแหล่งกำเนิดของสัตว์น้ำนานาชนิดทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วย ปลาหลากหลายชนิด เเละสัตว์น้ำในทะเล (ซึ่งเป็นปริมาณมากถึง ๘๐ % ของสัตว์น้ำ ทั้งหมดบนโลก)
3. สามารถผลิตเกลือและสารเคมีหลายชนิด อาทิ เกลือแกงเกลือจืด
4. อัญมณี เช่น ไข่มุก ได้มาจากหอยมุก ซึ่งอาศัยอยู่ ในน้ำทะเล
5. น้ำทะเลใช้เป็นที่เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น แล่นเรือใบ ว่ายน้ำ เล่นสกีน้ำและอื่น ๆ
แหล่งที่มา
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=60edaf5e92dadaa8
สาเหตุการเค็มของน้ำทะเล
การที่ทะเลมีรสเค็ม เนื่องจากการรวมตัวของน้ำละลายเกลือแร่ ที่ถูกพัดพามาจากพื้นทวีป และใต้ทะเล โดยความเค็มของทะเลจะมีความคงที่ สาเหตุที่ความเค็มของน้ำทะเลไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั้น ก็เพราะในมหาสมุทรมีกระบวนการของธรรมชาติที่รักษาระดับความสมดุลของเกลือแร่ คือถ้าหากว่าธาตุชนิดใดมีในน้ำมากเกินกว่าปกติ ก็จะถูกกำจัดออกจากน้ำทะเล โดยการแยกตัวออกเป็นของแข็ง ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีธาตุใดละลายน้ำน้อยเกินปกติ เกลือแร่ของธาตุนั้นในรูปของแข็ง ก็จะถูกละลายกลับสู่น้ำทะเล ดังนั้น ความเค็มของน้ำทะเลจึงคงที่มาหลายล้านปีแล้ว
น้ำทะเลเค็มเพราะมีเกลือหลายชนิดละลายอยู่ ที่สำคัญที่สุดได้แก่ เกลือแกง ซึ่งมีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมคลอไรด์ หรือ มีสูตรเคมีว่า NaCl น้ำทะเล โดยเฉลี่ยแล้วมีเกลือร้อยละ 3.5 หรือน้ำทะเล 1 ลิตรจะมีเกลือละลายอยู่ประมาณ 30 กรัม ยิ่งไปกว่านั้น ทะเลในแผ่นดินใหญ่หรือทะเลปิด ซึ่งไม่เชื่อมต่อกับทะเลหรือมหาสมุทรทั่วไป เช่น ทะเลเมดิเตอเรเนียนหรือทะเลแดง เกลือละลายอยู่มากกว่าทะเลหรือมหาสมุทรทั่วไป
แหล่งทีมา
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
โครงการ IS
ใบงานที่ …….. เรื่อง “โครงการการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง” Independent Study |
ชื่อกลุ่ม Number one ชั้น 4/8
สมาชิก 1) นางสาว ณิชกานต์ สุขนิล ม.4/8 เลขที่ 16
2) นางส่าว สลินทิพย์ อินทร์ประสิทธิ์ ม.4/8 เลขที่ 43
1..ขั้นวางแผนการจัดทำโครงการ
เรื่อง ทำไมน้ำทะเลจึงเค็ม ?
ผู้ร่วมโครงการ (บุคคลอื่นๆที่ไม่ใช่สมาชิกกลุ่ม)
เรื่อง ทำไมน้ำทะเลจึงเค็ม ?
ผู้ร่วมโครงการ (บุคคลอื่นๆที่ไม่ใช่สมาชิกกลุ่ม)
ที่ปรึกษาโครงการ ครูอัจฉรา สุขขีมนต์
หลักการและเหตุผล (ทำไมจึงสนใจทำเรื่องนี้)
เพราะเกิดการสงสัยว่า ทะเลที่เรานั้นชอบไปเที่ยวในวันหยุดน่าร้อนนั้น
เพราะเหตุใดจึงมีรสเค็ม และมีความแตกต่างกับน้ำธรรมดาทั่วไปอย่างไร
เราจึงอยากศึกษา ค้นคว้า เพื่อหาคำตอบ
วัตถุประสงค์โครงการ (ทำเพื่ออะไร)
เพื่อให้เกิดความรู้ และสามารถนำความรู้ไปบอกต่อ แก่ผู้ที่ยังไม่รู้ได้
เพราะเกิดการสงสัยว่า ทะเลที่เรานั้นชอบไปเที่ยวในวันหยุดน่าร้อนนั้น
เพราะเหตุใดจึงมีรสเค็ม และมีความแตกต่างกับน้ำธรรมดาทั่วไปอย่างไร
เราจึงอยากศึกษา ค้นคว้า เพื่อหาคำตอบ
วัตถุประสงค์โครงการ (ทำเพื่ออะไร)
เพื่อให้เกิดความรู้ และสามารถนำความรู้ไปบอกต่อ แก่ผู้ที่ยังไม่รู้ได้
ประเด็นปัญหา (คำถามที่ต้องการรู้)
ทำไมน้ำทะเลถึงมีรสเค็มนะ ?
น้ำทะเลประกอบไปด้วยอะไร จึงทำให้มีความแตกต่าง จากน้ำทั่วไป ?
น้ำทะเลสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ?
ทำไมน้ำทะเลถึงมีรสเค็มนะ ?
น้ำทะเลประกอบไปด้วยอะไร จึงทำให้มีความแตกต่าง จากน้ำทั่วไป ?
น้ำทะเลสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ?
เป้าหมาย / สถานที่ดำเนินโครงการ (ทำที่ไหน)
ระยะเวลา (ทำเมื่อใด)
งบประมาณ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (นำไปใช้ประโยชน์อย่างไร)
ได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุการเค็มของน้ำทะเล
ได้รับรู้ถึงประโยชน์ของน้ำทะเล
แผนการปฏิบัติงาน/ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ( ทำอย่างไร)
1 เริ่มจากการตั้งประเด็นคำถามที่อยากรู้
2 เริ่มค้นคว้าหาแหล่งที่ให้ศึกษา
3 เริ่มลงมือค้นหา ข้อมูล
4 รวบรวมข้อมูลแล้วจัดลงบล็อก
การประเมินผล
2.ขั้นลงมือปฏิบัติ
บันทึกผลการปฏิบัติ (สิ่งที่ได้ค้นพบ)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..................................
ได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุการเค็มของน้ำทะเล
ได้รับรู้ถึงประโยชน์ของน้ำทะเล
แผนการปฏิบัติงาน/ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ( ทำอย่างไร)
1 เริ่มจากการตั้งประเด็นคำถามที่อยากรู้
2 เริ่มค้นคว้าหาแหล่งที่ให้ศึกษา
3 เริ่มลงมือค้นหา ข้อมูล
4 รวบรวมข้อมูลแล้วจัดลงบล็อก
การประเมินผล
2.ขั้นลงมือปฏิบัติ
บันทึกผลการปฏิบัติ (สิ่งที่ได้ค้นพบ)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..................................
เอกสารอ้างอิง
แนะนำสมาชิก
1) นางสาว ณิชกานต์ สุขนิล ม. 4/8 เลขที่ 16
2)นางสาว สลินทิพย์ อินทร์ประสิทธิ์ ม. 4/8 เลขที่ 43
โรงเรียนตาคลีประชาสรรค์
2)นางสาว สลินทิพย์ อินทร์ประสิทธิ์ ม. 4/8 เลขที่ 43
โรงเรียนตาคลีประชาสรรค์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)